นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ เอสซีจีแอล เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการกับ บมจ. เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ ถือเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญของ 2 บริษัทในอุตสาหกรรมโลจิติกส์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นและทำให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปได้อย่างรวดเร็วโดยปัจจุบันบริษัทเชี่ยวชาญการให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ จากการให้บริการขนส่งสินค้าแก่บริษัทในเครือเอสซีจี และลูกค้าทั่วไป รวมถึงมีแผนขยายบริการโลจิสติกส์ทางรางและทางอากาศ ซึ่งช่วยขยายเครือข่ายการให้บริการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ เจดับเบิ้ลยูดี ผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่ในอาเซียน กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทควบรวมกิจการกับเอสซีจีแอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มเอสซีจี ตั้งเป้าหมายในปี70 มีมูลค่าบริษัทมากถึง 100,000 ล้านบาท จากปัจจุบันหากรวมกับหุ้นเพิ่มทุนมีมูลค่า 40,000 ล้านบาท และคาดว่ามีรายได้หลังการควบรวมกิจการแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4 ปี 66 เติบโตปีละ 10-12% จากฐานรายได้ของทั้ง 2 บริษัทรวมกันในปี 64 อยู่ที่ 25,548 ล้านบาท คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะเดียวกันหลังจากนี้บริษัทจะวางแผนร่วมกันเพิ่มรายได้จากการขยายจากฐานลูกค้าเดิมของทั้ง2ฝ่ายเพื่อเพิ่มรายได้และการประหยัดต้นทุนพร้อมกับสร้างมูลค่าเพิ่มในบริการเดิมที่แต่ละฝ่ายมีความชำนาญเช่นคลังห้องเย็นลานจอดรถยนต์คลังสินค้าอันตรายรวมไปถึงเชื่อมต่อการให้บริการในภูมิภาคอาเซียนโดยนำแผนงานที่ประสบความสำเร็จในไทยไปสร้างการเติบโตในต่างประเทศและให้บริการตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปผ่านบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า,โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ,การขนส่งแบบด่วนและพัฒนาขอบเขตการให้บริการอย่างต่อเนื่องในธุรกิจใหม่ๆเช่นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมเป็นต้น